Link Copied
คาดหมายอากาศ 7 วันแบบอินโฟกราฟิก
วันที่ 15 – 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568ออกประกาศ 15 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศทั่วไป
วันที่ 15 – 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568ในช่วงวันที่ 16 – 21 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดกับมีลมกระโชกแรงขึ้นในระยะแรก และหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงอีก โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลงอีก 4 - 7 องศาเซลเซียส และภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นอีก โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ในช่วงวันที่ 16 – 18 พ.ย. ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 17 – 21 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง
สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทย และห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ในช่วงวันที่ 18 – 21 พ.ย.
ออกประกาศ 15 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 15 – 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15 - 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 21 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 3 - 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 – 18 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23 – 32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 16 - 21 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 4 – 7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 16 – 17 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23 - 30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 40 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 16 - 21 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 16 - 21 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 16 – 21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในช่วงวันที่ 17 – 21 พ.ย.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 พ.ย.
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
โดยในช่วงวันที่ 18 - 21 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 15 – 17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดตรังลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 16 - 21 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 - 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
ออกประกาศ 15 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.