วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฏาคม 2566 เวลา 12.45 น. ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เข้าร่วมงานเปิดตัว “รายงานสภาวะภูมิอากาศในเอเชีย ประจำปี 2565” ซึ่งองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) พร้อมด้วย UNESCAP และ UNDRR ซึ่งเป็นองค์การพันธมิตร ได้ร่วมกันจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ โดยอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศไทย เวียดนาม และภูฏาน ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในงานเปิดตัวครั้งนี้ในฐานะสมาชิกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกด้วย
ด้วยตระหนักถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้ริเริ่มจัดทำรายงานสภาวะภูมิอากาศสำหรับภูมิภาคประจำปีขึ้น โดย รายงานสภาวะภูมิอากาศในเอเชีย ฉบับแรกได้จัดทำขึ้นในปี 2563 เพื่อให้ผู้กําหนดนโยบาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสังคม ได้รับทราบถึงความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ปรากฎการณ์สภาพอากาศและภูมิอากาศของปีนั้น ๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะยาว พร้อมข้อมูลการดําเนินการด้านสภาพภูมิอากาศที่มาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
โดยรายงานประจำปี 2565 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยความร่วมมือและความพยายามร่วมกันระหว่าง WMO ประเทศสมาชิก องค์การพันธ์มิตรภายใต้สหประชาชาติ และองค์กรวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศอื่น ๆ ได้ให้ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับตัวชี้วัดของสภาพภูมิอากาศที่สำคัญ เช่น อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิน้ำทะเล-ผิวพื้น ระดับน้ำทะเล ขนาดน้ำแข็งในทะเล ธารน้ำแข็ง และปริมาณความร้อนในมหาสมุทร รวมทั้งสรุปเหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ พายุหมุนเขตร้อน น้ำท่วม ความแห้งแล้ง และคลื่นความร้อน ที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาค ตลอดจนการวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาคส่วนที่อ่อนไหวจากสภาพภูมิอากาศ เช่น เกษตรกรรม น้ำ พลังงาน การขนส่ง และสุขภาพ ทั้งนี้สามารถเข้าดู รายงานสภาวะภูมิอากาศในเอเชีย ประจำปี 2563, 2564, 2565 ได้ที่ https://library.wmo.int/index.php?lvl=notice_display&id=22328
โอกาสนี้ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ร่วมประชุมหารือกับผู้แทนองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้แก่ Dr. Johan Stander, Director of Services และ Mr. Ben Churchill, Director of WMO Regional Office ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกใต้ฝั่งตะวันตกด้วย โดย WMO ได้ชื่นชมการดำเนินการของกรมอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับการนำ Common Alerting Protocol (CAP) มาใช้ในการเตือนภัย และขอให้ประเทศไทยแบ่งปันเทคนิคการดำเนินการดังกล่าวแก่สมาชิกในภูมิภาคเอเชียด้วยการสนับสนุนของ WMO นอกจากนี้ได้หารือเกี่ยวกับความต้องการเแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในประเทศไทย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกในภูมิภาคเอเชียได้มีความใกล้ชิดและพัฒนาความร่วมมือให้แน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น