สายด่วน อต. 1182
สายด่วน อต. 1182

กรมอุตุนิยมวิทยาร่วมประชุมเตรียมพร้อมบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 66/67

กรมอุตุนิยมวิทยาร่วมประชุมเตรียมพร้อมบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 66/67
วันที่ข้อมูล 17 ตุลาคม 2566

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ดร. ชมภารี  ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และคณะ ร่วมประชุมเตรียมการในการบริหารจัดการน้ำ ปี 2566/2567 โดยมี นายสมศักดิ์  เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในการนี้ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี กรมฝนหลวงและการบินเกษตร การประปานครหลวง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กองทัพอากาศ เป็นต้น เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล  

 

ดร. ชมภารี เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมได้เสนอข้อมูลต่อที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเพื่อเตรียมการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2566/2567 โดยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังปานกลาง และคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นในช่วงเดือน พ.ย. 66 - ม.ค. 67 จากนั้นจะมีกําลังอ่อนลงและต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือน ก.พ. - เม.ย. 67 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงปลายฤดูฝนนี้มีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ในระดับหนึ่ง

 

ภายหลังการประชุม ที่ประชุมเห็นชอบให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวน (ร่าง) มาตรการรองรับฤดูแล้งปี 2566/2567 ทั้ง 9 มาตรการ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ด้านน้ำต้นทุน ได้แก่ 1) เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ 2) ปฏิบัติการเติมน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านความต้องการใช้น้ำ ได้แก่ 3) กำหนดแผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกร เตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำนอง 4) บริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 5) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดน้ำ และลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วน 6) เฝ้าระวังและแก้ไขคุณภาพน้ำ ด้านการบริหารจัดการ ได้แก่ 7) เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำของชุมชน/องค์กรผู้ใช้น้ำ 8 ) สร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ และ 9) ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้มาตรการมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ก่อนเสนอในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2566 ในวันที่ 26 ต.ค. 66 นี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามผลการขับเคลื่อนการบริหารศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ปี 2566 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพื้นที่ภาคกลาง รวมทั้งติดตามการดำเนินการตาม 12 มาตรการฤดูฝน ปี 2566 ซึ่งที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการติดตามการดำเนินงานและรายงานผลเป็นระยะ ทำให้การขับเคลื่อนมาตรการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ โดยประธานได้กำชับให้มีการบริหารจัดการน้ำในช่วงปลายฤดูฝนส่งต่อสู่ฤดูแล้งอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินงานอย่างเป็นเอกภาพ โดยมีเป้าหมายให้มีปริมาณน้ำเพียงพอในภาพรวมทั้งประเทศภายใต้สภาวะเอลนีโญ

Chatbot logo