วันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี ดร. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์เอ็มคอต เอชดี ช่อง 9 ตอบคำถามประเด็นนักวิชาการด้านอากาศหลายประเทศคาดการณ์เอลนีโญที่จะเกิดขึ้นในปีนี้อาจลากยาวเป็นปรากฏการณ์ย้อนกลับเหมือนที่ลานีญาลากยาวกว่า 2 ปี ส่งผลให้ฝนน้อย โดย ดร. ชมภารี ได้อธิบายว่า สถานการณ์ปัจจุบัน พบปรากฏการณ์เอนโซอยู่ในสภาวะปกติ ส่วนการคาดหมายจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระบบการหมุนเวียนบรรยากาศบริเวณมหาสมุทรแปซิฟกบริเวณเขตศูนย์สูตร มีค่าใกล้เคียงค่าปกติ ประกอบกับเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติและแบบจำลองเชิงพลวัตจากศูนย์ Climate Prediction Center องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) คาดว่า ปรากฏการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะปกติจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคม จากนั้นมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเอลนีโญในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม และจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงกุมภาพันธ์ 2567 ทั้งนี้ จากข้อมูล Ocean Nino index (ONI) ที่แสดงการเกิดปรากฏการณ์เอนโซในอดีต พบว่าหลังจากช่วงปีที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญาต่อเนื่อง 2-3 ปี แล้วเปลี่ยนกลับมาสู่ปรากฎการณ์เอลนีโญนั้น ปรากฎการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นจะไม่ลากยาวเหมือนลานีญาช่วงที่ผ่านมา
ในการนี้ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปริมาณฝนรวมของทั้งประเทศในช่วงฤดูฝนปีนี้จะมีน้อยกว่าปี 2565 และจะน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 5% ฤดูฝนปีนี้คาดว่าจะเริ่มในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม สิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ซึ่งช้ากว่าปกติประมาณ 1 สัปดาห์ ช่วงต้นฤดู (ปลาย พ.ค.-มิ.ย.) จะเป็นช่วงที่ฝนตกต่อเนื่อง 40-60% ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตก 60-80% ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จากนั้นกลางเดือน มิ.ย.-กลางเดือน ก.ค. ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน ประชาชนจึงควรใช้น้ำเพื่อประโยชน์สูงสุด หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงที่ฝนตกชุกหนาแน่นที่สุดในเดือนสิงหาคม-กันยายน มีฝนตก 60-80% ของพื้นที่เป็นส่วนใหญ่กับมีฝนหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่
ก่อนจบการสัมภาษณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพอากาศ โดยกล่าวว่า ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค. นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบในพื้นที่ 59 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ตรวจสอบรายชื่อจังหวัดที่ได้รับผลกระทบที่ https://www.tmd.go.th/warning-and-events/warning-storm) อีกทั้งภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น บริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค. 2566 และขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่เว็บไซต์ http://www.tmd.go.th โทรศัพท์ 0-2399-4012-13 และ สายด่วน 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
